ต่อเนื่องจากโพสต์ที่แล้วเรื่องอุปกรณ์ชงกาแฟดื่มที่บ้าน พักหลังๆ นี่ผมชอบดื่มกาแฟที่ชงจากที่ชงกาแฟเซรามิคในรูปข้างล่างนี้มาก เพราะชงง่าย ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรพิเศษ ไม่ต้องฝึกฝนลองผิดลองถูกกันเป็นแรมปี แถมรสชาติที่ได้ก็ใกล้เคียงกับรสชาติกาแฟตอนคัปปิ้งด้วย
ข้อดีของที่ชงกาแฟตัวนี้คือทำจาก porcelain ทั้งตัว รวมถึงตัวตะแกรงที่กรองกากกาแฟด้วย ตะแกรงนี้เป็นเทคนิคพิเศษอายุกว่าร้อยปี เป็นเทคนิคเฉพาะของโรงงานนี้ที่ต้องทำด้วยมือทีละอัน ความพิเศษของตะแกรงนี้เองที่ทำให้รสชาติกาแฟที่ชงได้สะอาดมาก และเนื่องจากไม่ได้ใช้กระดาษกรองจึงไม่จำเป็นต้องเปลืองกระดาษ และที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นกระดาษอยู่ในกาแฟที่ดื่ม เรื่องกลิ่นกระดาษนี่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยแม้จะลวกน้ำร้อนก่อนชงจนกระดาษเปื่อย ผมเองดื่มกาแฟที่ชงผ่านกระดาษกรองมานานจนชิน แต่พอได้เปรียบเทียบกับกาแฟที่ชงจากตัวนี้ก็รู้สึกได้ชัดเลยว่ารสชาติกาแฟที่สะอาดกว่าเป็นอย่างไร
การหีบห่อมาจากโรงงานถือว่าค่อนข้างดี เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเจอที่ชงกาแฟแต่ละส่วนถูกแพคแยกกันเป็นชั้นๆ หลังจากเอาคู่มือออกจากกล่องแล้ว บรรจงยกออกที่ชงกาแฟจากกล่องทีละชิ้น เริ่มจากตัวล่างก่อน แล้วค่อยยกชิ้นกลางและชิ้นบนออกมาพร้อมกัน ระวังฝาปิดชิ้นบนสุดหล่นลงมาแตก
ประกอบด้วย 3 ชิ้นหลักๆ จากซ้ายไปขวา คือ Sprinkler หรือตัวกระจายน้ำ Filter ที่ใส่ผงกาแฟ และ Server คือชิ้นที่อยู่ล่างสุดที่เรารินกาแฟใส่ถ้วยเวลาที่ชงเสร็จแล้ว ส่วนฝาปิดชิ้นบนสุดไม่ได้เอามาถ่ายรูปด้วย
ที่บ้านผมใช้เตาแก๊สต้มน้ำและเครื่องบดมือหมุน ระหว่างรอน้ำเดือดผมก็จะบดกาแฟให้พร้อมก่อน เมื่อน้ำเดือดก็จะซ้อนที่ชงกาแฟ 3 ชิ้นเข้าด้วยกันแล้วเทน้ำร้อนลงไปประมาณ 200-300 ซีซี เพื่ออุ่นที่ชงกาแฟให้ร้อนและไม่ให้กาแฟที่ชงได้มีอุณหภูมิเย็นเกินไป เมื่อสัมผัสดูรู้สึกว่าภาชนะทั้งสามชิ้นร้อนดีแล้วให้เอา sprinkler ชิ้นบนออกวางบนจานรองถ้วย เทผงกาแฟที่บดแล้วลงในตัว filter ชิ้นกลาง ยกออกมาและพยายามเขย่าให้ผงกาแฟได้ระนาบ อีกมือนึงเทน้ำร้อนจาก server ไปอุ่นถ้วยที่จะใช้ดื่มกาแฟ นำทั้งสามชิ้นกลับมาซ้อนกันอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป
สัดส่วนการชงกาแฟดำก็เหมือนปกติคือ 1:15 ใส่ผงกาแฟ 1 กรัม ใช้น้ำชงกาแฟ 15 กรัม ซึ่งที่ชงกาแฟตัวนี้เหมาะกับปริมาณกาแฟประมาณ 20 กรัมต่อการชงหนึ่งครั้ง จะได้น้ำกาแฟพอดีกับถ้วยมัคขนาด 10 ออนซ์พอดี ขนาดของผงกาแฟที่บดจะหยาบกว่า paper drip เล็กน้อย วิธีการที่ดีที่สุดคือลองชิมดู ถ้ารู้สึกว่ากาแฟจืดและเบาคล้ายดื่มชา ให้ปรับความละเอียดขึ้นทีละนิด จนได้รสชาติที่เข้มข้น เว็บฝรั่งบางเว็บบอกว่าให้เอาตัว sprinkler ออกแล้วรินด้วยกาเหมือนเวลาดริปปกติทั่วไป แต่เมื่อสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมันแล้ว ทริคในการรินน้ำมีอยู่นิดเดียวคือ ให้รินผ่าน sprinkler เป็นช่วงๆ ช่วงละ 30 วินาที ปริมาณ 50-60 ซีซี ต่อครั้ง แล้วตัว sprinkler ที่ถูกออกแบบมาให้กระจายน้ำลงบนผงกาแฟอย่างทั่วถึงจะทำหน้าที่ของมัน ภรรยาผมมีตะบวยตักน้ำแกงอยู่อันนึงในครัว ปริมาตรประมาณ 50-60 ซีซีพอดี
เวลาชงเสร็จแล้ว ให้ค่อยๆ รินกาแฟลงในถ้วยที่อุ่นด้วยน้ำร้อนไว้ ถ้วยควรมีขนาดประมาณ 10 ออนซ์ หรือ 300 ซีซี จากประสบการณ์ไม่ค่อยชอบกาแฟที่ชงแบบ french press ที่น้ำกาแฟจะขุ่นๆ หน่อยและมีตะกอนนอนก้น น้ำกาแฟที่ชงผ่านที่ชงกาแฟตัวนี้มีความใสกว่าที่คิดไว้
สีของน้ำกาแฟมีความเข้มปกติ สังเกตได้ว่าผิวหน้าของกาแฟมี aromatic oil หรือน้ำมันหอมตามธรรมชาติของกาแฟที่ถูกสกัดออกมาขณะชงกาแฟ เนื่องจากกาแฟตัวนี้ที่ผมใช้เป็นกาแฟจากเคนย่า คั่วอ่อน และคั่วมาประมาณ 3 เดือนกว่าแล้ว น้ำมันเลยไม่ค่อยสวยเป็นปื้นๆ ด่างๆ หน่อย แต่ถ้าใช้กาแฟคั่วใหม่ๆ น้ำมันจะดูหนาสวยงามกว่านี้
ผงกาแฟที่ตกค้างใน server ถือว่าน้อยมากทีเดียว รสชาติกาแฟก็สะอาดอย่างน่าแปลกใจ กลิ่นผลไม้สไตล์เคนย่าออกชัดแม้กาแฟจะเก่าแล้ว กลิ่นเก่าหืนก็ออกมาด้วย เวลาชงกาแฟเบลนด์ก็จะรู้สึกได้ถึงส่วนผสมต่างๆ ค่อนข้างชัดทีเดียว เรียกว่ากาแฟจะดีจะเลวอย่างไรก็สามารถดึงออกมาได้หมด
ตอนนี้ผมหลงรักที่ชงกาแฟตัวนี้มาก ถึงขนาดเก็บอุปกรณ์อื่นๆ ขึ้นหิ้งหมด ท่านใดที่ชอบสะสม coffee maker แบบต่างๆ ชอบชงกาแฟดื่มที่บ้าน อยากให้ลองดูสักครั้งแล้วมาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ
มีขายมั้ยครับ สนใจครับ หรือว่าหาซื้อได้ที่ไหนครับ
มีขายครับ ลูกค้าสามารถเข้ามาสั่งได้ใน facebook page ของเราครับ ผ่านทาง inbox ครับ
ตามลิงค์นี้เลยครับ https://www.facebook.com/superhappyespresso