ผมรู้จักหมู่บ้านนี้จากการที่เราไปเยี่ยมหน่วยงานบำบัดผู้ติดยาเสพติดในเครือคริสตจักรวัฒนา ที่ตั้งอยู่ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นั่นผมได้รับเกียรติขึ้นพูดต่อหน้าที่ประชุมเรื่องการปลูกกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ว่ากาแฟเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน ในหมู่ผู้ฟังมีส.อบต.นั่งฟังอยู่ด้วย เมื่อจบการประชุมจึงได้นั่งคุยกันนอกรอบ แล้วเราก็นัดกันไปดูหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย เพราะว่าที่นั่นมีคนปลูกกาแฟอยู่บนดอย
เช้าตรู่วันหนึ่งต้นเดือนพฤศจิกายน ผมขับรถออกจากเชียงใหม่มาเจอพระอาทิตย์ขึ้นแถวๆ ป่าแป๋ แวะดื่มกาแฟนิดหน่อยแล้วออกเดินทางต่อ ผมจอดรถไว้ที่ตัวอำเภอปายแล้วติดรถอบต.ขึ้นดอยไป พร้อมกับเครื่องสีผลกาแฟสดและเครื่องขัดเมือกที่ได้งบอบต.ขึ้นไปส่งเสริม ระยะทางประมาณ 50 กม.จากตัวอำเภอปายเราใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเพราะหนทางที่ค่อนข้างขรุขระ จนไปถึงที่สถานีอนามัยบนดอยซึ่งเราใช้เป็นสถานที่แปรรูปกาแฟ หลังจากชาวบ้านช่วยกันยกเครื่องมืออุปกรณ์ลงจากท้ายรถกระบะ เราก็เริ่มแปรสภาพส้วมเก่าให้เป็นโรงโม่เปลือกผลสด ชาวบ้านรื้อผนังส้วมออกเหลือแต่เสา เราเอาประตูมาปิดโถส้วมนั่งยอง เอาเครื่องสีตั้งบนประตู แล้วก็เริ่มตัดไม้ตอกตะปูยึดเครื่องกับเสาและคาน เรียกว่าทำแค่ให้มันใช้ได้จริงๆ
เมื่อยึดสองเครื่องเรียบร้อย เราก็เริ่มติดเครื่องทดสอบดู ที่นี่ไม่มีไฟฟ้าจึงต้องเอาเครื่องฮอนด้าปั่นเครื่องโม่กาแฟ ชาวบ้านไปเก็บกาแฟมาลองเครื่องก็ปรากฏว่าใช้ได้ดี เสร็จภารกิจเย็นนั้นเจ้าหน้าที่อบต.ก็กลับลงไปที่ลุ่มเพราะมีประชุม ส่วนผมจุดเทียนล้อมวงกินข้าวกับชาวบ้านแล้วก็นอนอยู่ในอนามัยนั่นแหละ
เช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวตามไร่กาแฟของชาวบ้าน หมู่บ้านนี้จะมีคนจีนกับคนลีซออยู่ด้วยกัน คนจีนมีฐานะดีกว่าเพราะรู้จักค้าขาย สวนกาแฟของคนจีนอยู่กลางแดด สวนกาแฟของคนลีซออยู่ในร่ม ดูแล้วผลกาแฟยังไม่สุกดีเพราะที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1300-1500 เมตร คิดว่าอีกสองเดือนจะสุกเต็มที่ หลังจากเที่ยวเล่นเสร็จตอนบ่ายผมก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านกลับลงมาเอารถที่ตัวอำเภอแล้วกลับเชียงใหม่เลย
ผมกลับขึ้นไปบนดอยอีกครั้งปลายเดือนพฤศจิกายน นัดแนะกันว่าจะเข้าไปสอนเรื่องการแปรรูปผลผลิตเพราะน่าจะมีกาแฟที่สุกพร้อมเก็บมากขึ้นแล้ว ผมมีนัดกับชาวบ้านที่มีไร่กาแฟกลางแดด เข้าไปสอนแรงงานรายวันที่เขาจ้างมาเก็บกาแฟ เราทำความเข้าใจตรงกันแล้วว่าต้องเก็บเฉพาะผลสุกเท่านั้น แล้วผมก็มาเตรียมพร้อมที่สถานีอนามัย ตรวจเช็คโต๊ะตากกาแฟ และออกไปเที่ยวสวนกาแฟของหมู่บ้านใกล้เคียงที่อยู่ดอยเดียวกัน บ่ายแก่ๆ เรากลับมาที่สถานีอนามัย ชาวบ้านเริ่มเอากาแฟมาโม่ ก็มีปัญหาเครื่องสตาร์ทไม่ติดบ้าง น้ำมันท่วมบ้าง เนื่องจากชาวบ้านใช้เครื่องไม่เป็น จนค่ำแล้วเราต้องถอดสายพานเครื่องออกแล้วโม่มือ จากที่ดูภาพรวมพบว่ามีกาแฟที่สุกดีประมาณครึ่งหนึ่งปะปนอยู่กับกาแฟที่ยังไม่สุกเต็มที่ ก็มีการตักเตือนและแนะนำชาวบ้านไป ชาวลีซอดูจะสอนง่ายกว่า แต่ที่ผมเห็นบางคนไม่ต้องสอนก็เก็บมาได้สุกสม่ำเสมอดีมาก และวันรุ่งขึ้นเราก็เห็นว่าทำได้ดีอย่างที่เราแนะนำจริงๆ ผมได้แนะนำการหมักกาแฟแบบที่เร็ว ไม่ยุ่งยาก และให้ผลดีให้กับชาวบ้านลองทำดู เพราะเราทดลองแล้วว่าสภาพอากาศแบบนี้สามารถทำได้ดีและคิดแล้วว่าเหมาะกับลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้าน
เดือนมีนาคม กาแฟกะลาที่ตากไว้แห้งสนิท ชาวบ้านเริ่มร้อนเงินแล้วจึงโทรศัพท์มารบเร้าให้เราไปซื้อกาแฟ เรากลับขึ้นไปอีกครั้งเพื่อเอาตัวอย่างกาแฟลงมา เราเก็บตัวอย่างของชาวบ้านทุกคน เก็บข้อมูลผลผลิตทั้งหมดของหมู่บ้าน แล้วเอากลับลงมาสีเปลือกและคั่วชิมที่เชียงใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าชื่นชมมาก เมื่อดูตัวเลข กาแฟของคนลีซอที่เราเหมามาหมดมีเกือบๆ 2 ตัน ส่วนกาแฟของคนจีนที่เรายังไม่ได้ซื้อน่าจะมีอีก 2 ตันกว่าๆ สรุปว่าทั้งหมู่บ้านมีกาแฟ 4-5 ตัน ชาวบ้านบางครอบครัวมีแค่ร้อยกว่ากิโล อย่างเช่นของนายสุวัชชัย เมื่อแปรรูปเสร็จแล้วได้กาแฟดิบพร้อมคั่วไม่ถึงสองร้อยกิโล หมายความว่าเขาจะมีรายได้จากกาแฟต่อปีไม่เกิน 30,000 บาทเท่านั้น
ปีนี้เราได้แปรรูปกาแฟคนลีซอเรียบร้อยพร้อมสำหรับคั่ว ส่วนของคนจีนยังต้องรอชิมรสชาติจึงตัดสินใจได้ ผมตั้งใจว่าจะคั่วกาแฟของแต่ละครอบครัวแยกกัน เริ่มคนแรกคือกาแฟของนายสุวัชชัย เป็นกาแฟที่เราชอบเป็นอันดับสองเมื่อเราชิมกาแฟทั้งหมู่บ้านเทียบกัน เราจะใช้การคั่วค่อนข้างอ่อนสำหรับชงเป็นเอสเพรสโซ และคั่วอ่อนสำหรับชงแบบอื่นๆ เพื่อให้กาแฟโชว์ลักษณะเด่นของมันออกมาอย่างชัดเจน ผมอ้อนวอนคอกาแฟชาวไทยทุกท่านช่วยกันสนับสนุนหมู่บ้านนี้ด้วยการซื้อกาแฟไปดื่มและช่วยบอกต่อด้วยครับ กำไรส่วนหนึ่งเราจะนำกลับไปพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ของหมู่บ้านนี้ให้ดีขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศรับการหลั่งไหลเข้ามาของกาแฟจากประเทศเพื่อนบ้าน
ขอบพระคุณจากใจจริงครับ
สั่งซื้อยังไงครับ
เดี๋ยวส่งให้ครับ ขอบคุณครับ
ขอรายละเอียดด้วยครับ
ราคาถุงละ 200 บาทครับ (250 กรัม) ถ้าสะดวกมารับเองที่ร้านที่วงเวียน 22 หรือที่เชียงใหม่
แต่ถ้าจะให้ส่งให้ ผมรบกวนขอค่ากล่องกับค่าไปรษณีย์ EMS อีก 50 บาทครับ
รบกวนโอนเงินก่อน เข้าบัญชี 103 207 3821 ธนาคารไทยพาณิชย์
ชื่อบัญชี ศึกษิต เทพอารีย์ ครับ แล้วแจ้งที่อยู่ที่จะให้จัดส่งทางอีเมล์ theparee @ gmail.com
ขอบพระคุณมากครับ