ถ้าจะถามผมว่ามีอุปกรณ์ชงกาแฟดื่มเองที่บ้านที่ราคาไม่แพง ชงกาแฟได้ง่ายและได้รสชาติดีพอควร ไม่ต้องใช้ทักษะหรือการฝึกฝนอะไรมากมาย ภาพเจ้าพลาสติกใสๆ ทรงกรวย มีวาล์วอยู่ข้างล่าง จะผุดขึ้นมาในหัวทันที สิ่งนี้เรียกว่า Clever Coffee Dripper ครับ
เหตุผลคือมันเป็นวิธีการชงแบบ immersion คือผงกาแฟแช่อยู่กับน้ำร้อนตลอดระยะเวลาที่ชง ทำให้เราสามารถควบคุมตัวแปรอื่นๆ ในการชงได้ง่าย และเป็นการกรองด้วยกระดาษกรอง ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติสะอาด ไม่มีฝุ่นโคลนกาแฟมาให้กวนใจ เมื่อเปรียบเทียบรสชาติกาแฟที่ได้กับอุปกรณ์การชงกาแฟแบบอื่นๆ แล้วก็ย่อมแตกต่างกันพอควร เพราะที่ชงกาแฟแต่ละแบบก็ให้รสชาติไม่เหมือนกัน
ผมชอบใช้กระดาษกรองของ Melitta ครับ เพราะหาได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และรูพรุนของกระดาษไม่ละเอียดเกิน ทำให้ได้รสชาติที่หนักแน่นกว่า ขนาดกระดาษกรองเบอร์ 1×4 นี่จะพอดีกับ Clever Dripper เลยครับ
ขั้นต่อไปคือต้มน้ำครับ ถ้ามีเทอร์โมมิเตอร์ก็ใส่ลงไปด้วย จะได้คอยดูอุณหภูมิว่าเท่าไหร่แล้ว
แล้วก็ชั่งหรือตวงกาแฟ ถ้าไม่มีตาชั่งก็ต้องกะเอา อย่างช้อนตวงพลาสติกอันนี้ได้กาแฟประมาณ 16 กรัม เราใช้วิธีชั่งน้ำหนักหรือตวงก็เพราะว่าเราต้องการควบคุมตัวแปรในการชงกาแฟ ถ้าใส่กาแฟเยอะไป กาแฟก็จะมีรสเข้ม ใส่กาแฟน้อยไป รสชาติก็อ่อนจืดเหมือนน้ำล้างถ้วย
ขั้นต่อไปคือพับกระดาษกรองเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของรอยต่อ เผื่อเจอกระทำรุนแรงกระดาษกรองอาจแยกจากกันได้ ผงกาแฟจะไม่ถูกกรอง วัตถุประสงค์ของการใช้กระดาษกรองก็จะโมฆะไป
อ่ะ น้ำถึงอุณหภูมิที่ต้องการละ ให้รีบปิดไฟก่อนที่จะอุณหภูมิจะเลยไปนะครับ พออุณหภูมิประมาณ 90 น้ำก็จะเริ่มปุดๆ อย่างรุนแรงแล้ว ถ้าไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ก็ให้ดูว่าน้ำมันเริ่มปุดๆ เหมือนจะเดือดหรือยัง แต่ภาพนี้น้ำนิ่งเพราะปิดไฟแล้วครับ น้ำอุณหภูมิต่างกันก็จะให้รสชาติกาแฟที่ต่างกันครับ
ขั้นต่อไปคือลวกกระดาษกรองเพื่อขจัดกลิ่นกระดาษออกไปก่อน ปกติ Clever Dripper จะมีวาล์วกันน้ำไหลออกอยู่ด้านล่าง ถ้าวางไว้บนพื้นราบ เวลาเทน้ำลงไปวาล์วจะยังปิดอยู่และน้ำจะไม่ไหล แต่เมื่อวางไว้บนปากภาชนะ วาล์วจะถูกดันขึ้น น้ำจึงไหลลงไปได้ ทำแบบในภาพนี้เราก็ได้อุ่นภาชนะและล้างกระดาษกรองไปในคราวเดียว
เมื่อทุกอย่างพร้อมก็บดกาแฟได้เลย ปรับเครื่องบดให้ได้ผงกาแฟขนาดประมาณน้ำตาลทรายขาวครับ ชงครั้งนี้ผมใช้กาแฟ 20 กรัม โดยจะใช้สัดส่วน 1:16 คือผงกาแฟ 1 กรัม ใช้น้ำร้อน 16 กรัม เมื่อเราเปลี่ยนสัดส่วนตรงนี้รสชาติก็จะเปลี่ยนไป แนะนำให้ทดลองชิมเอาตามใจชอบครับ
ผมจะแบ่งการเทน้ำเป็นสองรอบ รอบละครึ่งนึง สำหรับครั้งนี้เทครึ่งแรกคือ 160 กรัม แล้วก็เอาช้อนคนผงกาแฟไปมาประมาณ 10 ครั้ง แล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ รอเวลาประมาณ 1:30 นาที ผมใช้วิธีชั่งน้ำหนักเพราะว่าการตวงน้ำนั้นทำได้ยาก ถ้าตวงก่อนต้มน้ำบางส่วนจะระเหยเป็นไอ ถ้าตวงหลังต้มอุณหภูมิน้ำจะตก ไม่อย่างนั้นก็ต้องตวงด้วยสายตาจากระดับน้ำที่อยู่ในตัว Clever Dripper
แล้วก็ใส่น้ำอีกครึ่งนึงลงไป แล้วก็คนอีกสิบครั้ง แล้วก็ตั้งไว้จนครบ 4 นาที การชงกาแฟก็คล้ายกับการทำอาหารอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องชั่งตวงวัดก็ได้ แต่ถ้าทำได้ก็จะทำให้เรารู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน จะปรับสูตรการชงกาแฟอย่างไรให้ได้รสชาติที่เราชอบ
พอครบ 4 นาที ก็เอาขึ้นวางบนภาชนะปล่อยน้ำไหลออกมา พอเห็นผงกาแฟข้างบนแล้วยกออกเลยครับ เทน้ำร้อนที่ลวกถ้วยกาแฟไว้ทิ้งไป เอาช้อนคนๆ กาแฟในภาชนะก่อนแล้วจึงเทใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟได้ทันทีครับ
เมื่อชิมดูถ้าไม่ชอบรสชาติอย่างที่ชงได้นี้ก็ต้องลองปรับตัวแปรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดูครับ เช่น ปริมาณกาแฟ ปริมาณน้ำ อุณหภูมิน้ำ จำนวนครั้งที่คน และความละเอียดของผงกาแฟ ถ้าปรับจนกาแฟหมดถุงแล้วยังไม่ชอบก็ลองเปลี่ยนกาแฟดู กาแฟถุงใหม่อาจอร่อยขึ้นก็ได้ครับ
ขอให้มีความสุขในการชงและดื่มกาแฟนะครับ
(^^)