พักหลังๆ มานี่ผมไม่ค่อยชอบดื่มอเมริกาโนเท่าไหร่ รู้สึกว่ารสชาติมันไม่ค่อยกลมกล่อม เวลาอยากดื่มกาแฟดำแต่ไม่อยากเอสเพรสโซ ก็มักจะหาวิธีการชงด้วยอุปกรณ์อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟดริป พอมานั่งคิดว่าทำไมถึงไม่ชอบอเมริกาโน ก็พอหาเหตุผลมาสนับสนุนได้เล็กน้อย
ก่อนอื่นต้องพิจารณาว่าอเมริกาโนมาได้อย่างไร อเมริกาโนเกิดจากความคิดพลิกแพลงของบาริสต้าอิตาเลียนที่ต้องการเสิร์ฟกาแฟดำถ้วยใหญ่ๆ ไม่เข้มข้นเท่าเอสเพรสโซให้กับนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่นิยมดื่มกาแฟจางๆ แบบดริป บาริสต้าชงอเมริกาโนมาจากกาแฟเอสเพรสโซหนึ่งช็อต (7-8 กรัม ได้น้ำกาแฟ 25-30 ซีซี) เจือจางกับน้ำร้อนจัดที่เปิดจากเครื่อง (180-220 ซีซี) ถ้าชงได้ตามมาตรฐานที่ว่าด้านบน ความเข้มข้น (Total Dissolved Solids – TDS) ของกาแฟอเมริกาโนจะอยู่ที่ประมาณ 0.8% ผมเคยเจอบาริสต้าประสบการณ์สูงที่เมืองเนเปิลชงอเมริกาโนโดยอัดน้ำร้อนผ่านกาแฟก้อนเดิมที่ถูกชงไปแล้ว ได้กาแฟดำที่เป็นหางกาแฟ จางๆ ขมๆ เหม็นๆ เฝื่อนๆ ถ้วยนึง ก่อนจะดื่มก็ต้องเติมน้ำตาลลงไป
ส่วนกาแฟดำปกติที่ไม่ได้ชงด้วยเอสเพรสโซ จะชงโดยใช้สัดส่วนกาแฟ 10 กรัม ต่อน้ำ 160 ซีซี ซึ่งถ้าชงได้ถูกต้อง TDS จะอยู่ที่ประมาณ 1.4% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารสชาติจะเข้มข้นกว่าอเมริกาโนข้างบน นอกจากว่าจะใช้เอสเพรสโซดับเบิลช็อต แม้จะได้ผลเข้มข้นใกล้เคียงกันแต่จะเปลืองกาแฟมากกว่า
อีกข้อหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือกาแฟที่คั่วและเบลนด์เพื่อใช้ชงเอสเพรสโซนั้นแตกต่างจากกาแฟคั่วและเบลนด์เพื่อการชงแบบอื่นๆ มากพอสมควร เพราะเอสเพรสโซเป็นการชงกาแฟที่เค้นเอารสชาติออกมาอย่างจัดจ้าน จึงต้องคั่วและเบลนด์กาแฟให้มีความกลมกล่อมเมื่อชงออกมาเป็นเอสเพรสโซ แต่กาแฟสำหรับชงดริปนั้นปกติจะคั่วอ่อนกว่า เพื่อให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน ไม่ขมเฝื่อน ดังนั้น กาแฟดำที่ชงด้วยอเมริกาโนจะมีรสชาติแตกต่างกับดริปค่อนข้างชัดเจนแม้ความเข้มข้นของ TDS จะเท่ากัน
ปัจจุบันร้านกาแฟแบบดริปล้วนๆ ก็มีเปิดในบ้านเราแล้ว ร้านกาแฟในไทยหลายร้านก็มีกาแฟดริปเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าคอกาแฟพันธุ์แท้แล้ว ร้านกาแฟหัวก้าวหน้าในยุโรปและอเมริกาก็มีกาแฟดำที่ชงด้วยวิธีการอื่นๆ เคียงข้างเอสเพรสโซแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่าหากสามารถทำได้ก็ควรจะเสิร์ฟกาแฟดำเป็นแบบดริป หรือเฟรนช์เพรส หรือชงด้วยวิธีการใดๆ ที่ไม่ใช่อเมริกาโน เพราะรสชาติดีกว่า รวมถึงอเมริกาโนเย็นด้วยครับ
(^^)